0
|
Tweet |
|
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับโรคกระดูกพรุนกันก่อนดีกว่า โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่มวลกระดูกของร่างกายลดต่ำกว่าค่ามวลกระดูกมาตรฐาน ซึ่งเกิดจากความหนาแน่นของเนื้อกระดูกที่ลดลง มีการเสื่อมของโครงสร้างกระดูกจากภายใน ทำให้กระดูกเกิดความเปราะบางได้ง่าย ความแข็งแรงที่ลดน้อยลง เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจากการขาดแคลเซียมซึ่งมีความสำคัญกับร่างกาย หากเราไม่ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม ร่างกายจะดึงเอาแคลเซียมที่เก็บไว้ในกระดูกมาใช้ ทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนได้
ที่บอกว่าโรคนี้คือภัยเงียบก็เพราะโรคนี้มักไม่แสดงอาการใดๆ เว้นเสียว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา สังเกตได้ง่ายๆ เลยผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนจะมีความเสี่ยงต่อการที่กระดูกหักง่าย แม้จะเป็นอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยก็ตาม เช่น กระดูกหักขณะก้มหยิบของหรือยกของหนัก, กระดูกซี่โครงหักเพียงแค่ไอหรือจาม, กระดูกสะโพกหักจากก้นกระแทกกับพื้น เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน
-อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป เซลล์สร้างกระดูกในจำนวนที่น้อยลง ในขณะที่เซลล์สลายกระดูกทำงานปกติ ทำให้กระดูกบางลง
- เพศ ส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายมีความหนาแน่นของมวลกระดูกมากกว่า เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้กระดูกลดลงตามไปด้วย
- พันธุกรรม
-ไม่ออกกำลังกาย คนที่ไม่ออกกำลังกายเลย เซลล์สลายกระดูกทำงานได้ดี ทำให้กระดูกไม่แข็งแรง
- ขาดสารอาหารจำพวกโปรตีน แคลเซียม และวิตามินดี
-น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
-สูบบุหรี่เป็นการละลายแคลเซียมออกจากกระดูก
-ดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และน้ำอัดลม
-กินโปรตีนหรือเนื้อสัตว์มากเกินไป ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ
-กินอาหารที่มีโซเดียมสูง
- โรคต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน, โรคไทรอยด์เป็นพิษ, ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคเนื้องอกของต่อมใต้สมอง, โรคระบบต่อมเพศทำงานน้อยผิดปกติ, โรคลำไส้อักเสบ, โรคไต, ต่อมหมวกไตทำงานน้อยผิดปกติ, ต่อมเพศทำงานน้อยผิดปกติ, โรคตับเรื้อรัง, โรคปวดข้อรูมาตอยด์, โรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น
โรคกระดูกพรุนเกิดจากการขาดแคลเซียมดังนั้นเราจึงควรดูแลกระดูกให้แข็งแรง สะสมแคลเซียมไว้ให้กระดูกเยอะๆ ซะตั้งแต่วันนี้